วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คำศัพท์ 10 คำ ครั้งที่ 3

1.Blog เว็บไซต์ส่วนตัวที่ใช้สำหรับเขียนบทความ หรือแชร์ลิงค์ต่างๆ 
คำว่า Blog เป็นชื่อย่อที่มาจากคำว่า “Weblog” ซึ่งถูกใช้ครั้งแรกในปี 1997 โดยนาย Jorn Barger ที่ใช้เรียกเว็บไซต์ Robot Wisdom ที่เป็นแหล่งรวมข้อมูล และลิงค์ต่างๆ ของเขา ซึ่งเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปคำๆ นี้ก็เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
2.Cookies ข้อมูลย่อยขนาดเล็กที่ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เวลาท่องเว็บไซต์
Cookies มีต้นกำเนิดมาจากคำว่า “Magic Cookies” ซึ่งคิดค้นโดย Lou Montulli โดยเขาได้บอกว่า “ผมได้ยินคำว่า Magic Cookies ระหว่างการเรียนวิชาระบบปฏิบัติการในมหาวิทยาลัย และผมก็ชอบคำนี้เอามากๆ”แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า Magic Cookies มาจากไหน แต่มีอยู่หนึ่งทฤษฎีบอกว่ามาจากวีดีโอเกม ที่ผู้เล่นจะต้องเก็บ Magic Cookies ไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านด่าน
3.Spam อีเมลที่ไม่พึงประสงค์ หรือเมลขยะนั่นเอง
ต้องขอบคุณนาย Monty Python ที่พูดในรายการตลกของเขา ซึ่งมีการพูดถึงเมนูอาหารที่ทุกจานจะต้องมีส่วนผสมของสแปมในทุกจาน รวมไปถึงในรายการเขาก็พูดคำว่าสแปมซ้ำๆ จนกลายเป็นเรื่องตลก และน่ารำคาญ จนเป็นที่มาของคำว่าสแปม ซึ่งหมายถึงของที่ไม่พึงประสงค์นั่นเอง
4.Meme ความคิด หรือการกระทำที่แพร่หลาย และถูกกระทำต่อๆ กันในโลกอินเตอร์เน็ต
มาจากหนังสือเรื่อง The Selfish Gene ในปี 1976 เขียนโดยนักวิทยาศาสตร์นามว่า Richard Dawkins โดยเขาต้องการใช้คำที่สามารถอธิบายได้ถึง “การเลียนแบบทางวัฒนธรรม” จึงไปเจอคำว่า “mimeme” ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่า “ของลอกเลียนแบบ” และได้เปลี่ยนให้เป็นคำสั้นๆ ว่า “meme” แถมคำนี้ยังไปพ้องเสียงกับคำว่า même ที่แปลว่า “เหมือน” ในภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย
5.Hacker อาชญากรบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่มักเจาะข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต
จริงๆ แล้วคำว่าแฮ็กเกอร์ก็อาจไม่ได้หมายความถึงสิ่งที่มีความหมายในทางลบเสมอไป เพราะเมื่อก่อนคำว่าแฮ็กเกอร์หมายถึง คนที่เชี่ยวชาญในเรื่องอิเล็กทรอนิกส์มากๆ ไม่ใช่แค่เรื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ในหนังสือชื่อว่า Piracy Cultures ความหมายของคำว่าแฮ็กเกอร์นั้นหมายถึง “บุคคลผู้ซึ่งทำงานในการเขียนข้อมูล และทดสอบซอฟต์แวร์” และสำหรับแฮ็กเกอร์ที่เจาะข้อมูลเพื่อกระทำเรื่องที่ไม่ดี เราจะใช้คำว่า “Crackers” (แคร็กเกอร์) แทน
6.Firewall โปรแกรมที่ใช้ป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์จากแฮ็กเกอร์ที่ไม่ดี หรือไวรัสต่างๆ
คำๆ นี้ถูกใช้มาหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งหมายถึงกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอาคารจากไฟที่กำลังลุกลามเข้ามา ในความหมายทางด้านคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน จะหมายถึงเทคโนโลยีที่ป้องกันไวรัสอันตรายต่างๆ ที่จะลุกลามมาหาเครื่องคอมของเรานั่นเอง
7.HTML (Hyper Text Markup Language)
ภาษาที่เขียนและกำหนดรูปแบบของเวบเพจ หรือเอกสารต่างๆบนเวิล์ดไวด์เวบ
8.Remote Procedure Call
เป็นโปรโตคอลที่โปรแกรมหนึ่งสามารถใช้คำขอบริการจากโปรแกรมที่ตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องในเครือโดยไม่ต้องเข้าใจรายละเอียดเครือข่าย
9.EDGE (Enhanced Data GSM Environment)
เป็นเวอร์ชันเร็วกว่าของการให้บริการไร้สาย Global System for Mobile (GSM) ที่ออกแบบเพื่อการส่งมอบอัตราข้อมูลได้ถึง 384 Kbps และความสามารถส่งมอบมัลติมีเดียและการประยุกต์ broadband อื่นให้กับโทรศัพท์มือถือและผู้ใช้คอมพิวเตอร์ มาตรฐาน EDGE ได้รับการสร้างขึ้นบนมาตรฐาน GSM ที่มีอยู่ ด้วยการใช้โครงสร้างเฟรม time-division multiple access (TDMA) เดียวกันและการจัดสรรเซลที่มีอยู่ Ericsson หมายเหตุว่าสถานีฐานสามารถปรับปรุงด้วยซอฟแวร์
10.Emacs คือ text editor ยอดนิยมที่ใช้ส่วนใหญ่บนระบบ Unix
โดยผู้เขียนโปรแกรม นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักศึกษา และผู้บริหารระบบ เหมือนกับ text editor ของ Unix อื่นๆ Emacs ให้คำสั่งต้นแบบและแป้นพิมพ์ผสมพิเศษที่ให้ผู้ใช้เพิ่ม ลบ แทรก และการควบคุมคำ ตัวอักษร บรรทัด และหน่วยอื่นของข้อความ Emacs ได้รับการใช้โดยทั่วไปเพื่อเข้าถึงประโยคคำสั่งต้นแหล่งอื่นของโปรแกรม ตัวของ Emacs ได้รับการสร้างให้ใช้ภาษาโปรแกรม LISP และผู้ใช้ได้รับการเชิญเพื่อขยายหรือส่วนบุคคลด้วยการใช้ภาษาเดียวกัน รวมทั้ง Emacs เสนอขีดความสามารถด้านความสะดวกจำนวนหนึ่ง เช่น ความสามารถในการเริ่มคอมไพเลอร์และควบคุมอีเมล์ภายใน editor

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น